การเกษตร ข่าวเกษตร แหล่งรวมความรู้ด้านการเกษตรในประเทศไทย
พืชสมุนไพร หลายๆ ท่านคงพอคุ้นเคยกับสมุนไพรไทย เพราะปัจจุบันเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย
หลายคนรับประทานเพื่อบำรุงร่างกาย แม้กระทั่งโรงงานต่างๆ ก็นำพืชสมุนไพรมาแปรรูปทำเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเส้นผม แต่คุณทราบหรือไม่ว่าประโยชน์ของพืชสมุนไพรนั้นสามารถเป็นได้มากกว่าที่คิด เพราะสมุนไพรยังมีสรรพคุณต่างๆ ที่สามารถนำมารักษาโรคได้แทนยาสามัญประจำบ้านโดยไม่ต้องพึ่งยารักษาแผนปัจจุบัน แต่พืชสมุนไพรชนิดไหนบ้างที่สามารถแปลงเป็นยาสมุนไพรได้บ้าง เราได้รวบรวมพืชสมุนไพร 5 ชนิดที่คุณสามารถนำมารักษาโรคแทนการรับประทานยาแผนปัจจุบันได้
พืชสมุนไพรไทย 5 ชนิดที่มีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด
สมุนไพรไทย
- ขมิ้นชัน
ขมิ้นเป็นสมุนไพรที่หลายคนนิยมนำมาขัดผิวเพื่อให้ผิวพรรณนุ่มนวลและแลดูผ่องใส ขมิ้นชันยังมีสรรพคุณยอดเยี่ยมต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระจากมลพิษต่างๆ เช่น ควันบุหรี่ หรือควันจากท่อไอเสียรถยนต์ ซึ่งสามารถก่อให้เกิดโรคภัยต่างๆ ได้ นอกจากนี้ขมิ้นยังมีฤทธิ์ในการช่วยรักษาโรคต่างๆ ที่เกิดกับกระเพาะอาหารหรือลำไส้ ไม่ว่าจะเป็นอาการท้องเสีย มวลท้อง ท้องแน่น ท้องอืด หรืออุจจาระร่วง และยังสามารถช่วยรักษาโรคลำไส้อักเสบ ช่วยในการขับลมและขับน้ำได้ โดยเฉพาะกับคนที่เป็นโรคกระเพาะค่อนข้างเรื้อรัง และต้องรับประทานยาอยู่บ่อยครั้ง หากคุณไม่ต้องการรับประทานแผนปัจจุบันบ่อยเกินไป คุณสามารถรับประทานขมิ้นชันแทนก็ได้ เพราะขมิ้นชันมีคุณสมบัติช่วยสมานแผลในกระเพาะอาหารและลดอาการบีบตัวของลำไส้ โดยคุณสามารถหาซื้อสมุนไพรขมิ้นชันสำเร็จรูปหรือสามารถนำผงขมิ้นชันมาผสมกับน้ำผึ้งทำเป็นยาลูกกลอน แล้วรับประทานเป็นยาหรือสามารถรับประทานทุกวันเพื่อบำรุงร่ายกายและผิวพรรณก็ได้เช่นกัน
ขมิ้นชัน
- ฟ้าทะลายโจร
นอกเหนือจากการแก้อาการหวัดแบบทั่วไปแล้ว ฟ้าทะลายโจรยังมีคุณสมบัติในการสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น และป้องกันไม่ให้เป็นหวัดบ่อย ฟ้าทะลายโจรยังช่วยลดอาการติดเชื้อและอักเสบได้ เช่น ลดอาการเจ็บคอ บรรเทาอาการต่อมทอนซิลอักเสบ และหลอดลมอักเสบ ช่วยลดไข้ และยังช่วยอาการติดเชื้อในกระเพาะอาหารได้ดี ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นแค่หวัดธรรมดา เป็นไข้จากต่อมทอนซิลอักเสบ หรือท้องเสียเพราะติดเชื้อในกระเพาะอาหาร คุณก็สามารถรับประทานฟ้าทะลายโจรแทนยาแก้หวัดหรือยาปฏิชีวนะได้ อย่างไรก็ตามหากรับประทานฟ้าทะลายโจรแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น คุณควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูโรคให้แน่ชัด
- ตะไคร้
ตะไคร้นอกจากจะสามารถนำมาประกอบอาหาร นำมาแปรรูปเป็นโลชั่นทากันยุง อีกทั้ง หรือช่วยดับกลิ่นที่ไม่พึ่งประสงค์ต่างๆ ได้แล้ว ตะไคร้ยังเป็นพืชมสุนนไพรชั้นดีในการรักษาโรค เพราะตะไคร้มีสรรพคุณช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยในการย่อยอาหาร และลดอาการบีบตัวของลำไส้ ช่วยให้กระเพาะและลำไส้สะอาด และยังมีสรรพคุณในการขับปัสสาวะ คุณสามารถนำตะไคร้สดมาหั่นแล้วทุบให้แตก จากนั้นนำมาห่อใบเตยแล้วต้มดื่ม ตะไคร้ยังเป็นยาช่วยให้คุณเจริญอาหารได้อีกด้วย
- ตำลึง
นอกจากความหวานอร่อยแล้ว ตำลึงยังมีคุณสมบัติช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยบำรุงสายตา เพราะมีวิตามินเอสูง และยังช่วยบำรุงโลหิต ที่สำคัญตำลึงยังช่วยลดอาการคัน อักเสบ และบรรเทาอาการบวมแดงบนผิวหนังจากแมลงสัตว์กัดต่อย ซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับคนที่แพ้ยุง นอกจากนี้ตำลึงยังช่วยแก้โรคฝีได้อีกด้วย โดยคุณสามารถนำใบตำลึงมาตำให้ละเอียดแล้วผสมกับน้ำเล็กน้อย จากนั้นให้นำมาทาบบริเวณที่ต้องการรักษา
- ว่านหางจระเข้
คนโบราณมักนิยมนำว่านหางจระเข้มาปอกเปลือกและฝานเป็นแว่น ๆ เพื่อนำวุ้นว่านหางจระเข้มาช่วยรักษาอาการน้ำร้อนลวกหรือแผลพุพอง และช่วยลดรอยแผลเป็นให้จางลง ว่านหางจระเข้ยังมีสรรพคุณในการบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่น ป้องกันการแห้งแตกของผิวหนัง และป้องกันผิวไม่ให้เกิดอาการไหม้จากแสงแดด อย่างไรก็ตามในปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่หันมารับประทานวุ้นว่านหางจระเข้มากขึ้น เพราะมีคุณสมบัติในการรักษาโรคหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการช่วยรักษาโรคในระบบทางเดินอาหาร
ว่านหางจระเข้
น้ำว่านหางจระเข้ยังมีสรรพคุณต้านอนุมุลอิสระจากมลพิษต่างๆ ช่วยชะลอการเกิดดริ้วรอยบนผิวหนัง และที่สำคัญยังสามารถป้องกันโรคเบาหวาน และลดอาการต่างๆ ที่เกิดจากโรคเบาหวานได้อีกด้วย
คุณสามารถปลูกสมุนไพรต่างๆ เหล่านี้ได้เองเพื่อนำมาทำเป็นยาสมุนไพรประจำบ้าน และลดการรับประทานยาแผนปัจจุบันที่อาจส่งผลข้างเคียงในระยะยาวได้ คุณสามารถหลีกเลี่ยงศัตรูพืชรวมไปถึงสัตว์เลื้อนคลานต่างๆ ที่สามารถทำให้สมุนไพรเสียหายได้ คุณเตรียมหาวิธีกำจัดจิ้งจกหรือตุ๊กแกไว้ เพราะสัตว์เลี้อยคลานประเภทนี้มีเชื้อโรคที่เรียกว่า ซัลโมเนลล่า ซึ่งสามารถทำให้เกิดอาการท้องร่วงได้หากปนเปื้อนในอาหารหรือรับประทานเข้าไป ดังนั้นคุณควรระวังไม่ให้สัตว์เลี้อยคลานเหล่านี้คลืบคลานเข้าไปใกล้สมุนไพรต่างๆ ที่คุณปลูกไว้ คลิกที่นี่ เพื่ออ่านวิธีกำจัดจิ้งจก
ขอบคุณภาพและข้อมูลที่มาโดย : cleanipedia.com
